24 มกราคม 2563 หนองบัวลำภู : กบ.กข.กสอ. และ ศภ.4 กสอ. เข้าร่วมประชุมชี้แจงและแนะนำโครงการยกระดับศักยภาพการให้บริการ SMEs ด้วยเครือข่าย (RISMEP) ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ให้กับหน่วยงานเครือข่ายส่งเสริม SME ทั้งภาครัฐและเอกชน 14 หน่วยงาน พร้อมทั้งระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดกิจกรรมและอนุมัติแผนปฏิบัติการของเครือข่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยมีอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู (นายอุทัย สอนเทศ) ให้เกียรติเป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมชวนพิศ โรงแรมณัฐพงศ์ แกรนด์ จังหวัดหนองบัวลำภู ที่ประชุมได้อนุมัติแผนของเครือข่าย โดยมีกิจกรรมหลัก ประกอบด้วย การสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย การให้บริการสนับสนุน SME ในพื้นที่ และการประเมินผลการดำเนินงานของเครือข่าย โดยทั้ง 14 หน่วยงานยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนกิจกรรมตามแผนปฏิบัติการเพื่อประโยชน์กับ SME ในพื้นที่ต่อไป

รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) อย่างจริงจัง จากข้อมูลของสํานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่า ในปี 2562 SMEs ไทย มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 99.53 ของวิสาหกิจทั้งหมด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ มีสัดส่วนต่อ GDP ของประเทศคิดเป็นร้อยละ 35.30 ของ GDP ทั่วประเทศ และมีสัดส่วนต่อการจ้างงานมากถึงร้อยละ 69.48 SMEs จึงเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่อุปสรรคสำคัญประการหนึ่งของ SMEs คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน อันเนื่องมาจากข้อจำกัด ทั้งความไม่พร้อมของผู้ประกอบการ หลักเกณฑ์ที่ไม่ยืดหยุ่นของสถาบันการเงิน ประเภทของเงินทุนในประเทศที่ไม่มีความหลากหลาย และไม่ตอบสนองความต้องการของธุรกิจในแต่ละช่วงการเติบโต ทั้งนี้ พบว่าผู้ประกอบการที่ต้องเผชิญปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะปิดกิจการ และบางกลุ่มต้องรับภาระจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงเกินไป ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ การสนับสนุนให้ SMEs ที่มีศักยภาพเข้าถึงตลาดทุน เป็นอีกเป้าประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมและพัฒนา SMEs ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน ตามนโยบายรัฐบาลภายใต้แผนการส่งเสริม SME ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2560–2564) ในยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมและพัฒนา SMEs รายประเด็น ซึ่งเป็นการส่งเสริมและพัฒนา SMEs ในประเด็นที่มีความสำคัญต่อการเติบโตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และหนึ่งในกิจกรรมที่จะทำให้แผนงานตามยุทธศาสตร์นี้บรรลุผล คือ การสนับสนุนให้ SMEs ที่มีศักยภาพเข้าถึงตลาดทุน เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาด และขยายธุรกิจ ผ่านการระดมทุนในตลาดทุนของไทย ซึ่งการแปรสภาพเพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการยกระดับธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากเป็นแหล่งระดมเงินทุนระยะยาว สำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือขยายธุรกิจที่ง่ายและรวดเร็ว สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และมีโอกาสในการเลือกระดมทุนผ่านการออกหลักทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกิจการ ทำให้บริษัทเป็นที่รู้จัก และเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างแรงจูงใจให้เกิดความสนใจในการเข้าร่วมลงทุนจากกลุ่มธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อิตาลี เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ให้ความสำคัญกับ SMEs ที่มีการเติบโตสูง (High Growth SMEs) เป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจ ทั้งการจ้างงาน การเพิ่มปริมาณงานที่มีคุณภาพ การเพิ่มรายได้ให้กับพนักงานอันนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ประกอบกับยังเป็นแหล่งของนวัตกรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศด้วย จากเหตุผลดังกล่าว กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงได้จัดทำโครงการบ่มเพาะ SMEs ที่มีศักยภาพให้มีความพร้อมในการขยายสู่ตลาดทุน (mai) โดยการคัดเลือก SMEs ที่มีศักยภาพ มีโอกาสในการเติบโตสูงจากพื้นที่ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าส่งเสริมและสนับสนุน SMEs ให้สามารถพัฒนาตนเองจนมีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ ภายใต้แผนการดำเนินโครงการ 3 ปี ซึ่งวิสาหกิจที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะเป็นต้นแบบในการพัฒนาเพื่อขยายผลให้ SMEs รายอื่น ๆ ได้สามารถศึกษาแนวทางการพัฒนาและเรียนรู้กลยุทธ์ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติเพื่อนำไปปรับและประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนได้ต่อไป บทความโดย นายรักษ์ เจริญศิริ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาบริการธุรกิจอุตสาหกรรม กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม

กำหนดการฝึกอบรม สมัครเข้าร่วมการฝึกอบรม

กำหนดการฝึกอบรมครั้งที่ 1 กำหนดการฝึกอบรมครั้งที่ 2 สมัครเข้าร่วมฝึกอบรม

5-7 กันยายน 2562 : นางยุพรัตน์ ศตวิริยะ ผอ.กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานสัมมนาสรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมสร้างบนเรียน การเรียนรู้การดำเนินงานคลัสเตอร์ (Cluster Lesson Learned) ภายใต้กิจกรรมสร้างการรับรู้เชื่อมโยงธุรกิจ และส่งเสริมการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม ณ โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน กิจกรรมดังกล่าว เป็นการนำเสนอ สรุปผลการดำเนินงานพัฒนาการรวมกลุ่มตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา โดยการสร้างบนเรียนการเรียนรู้การดำเนินงานคลัสเตอร์ (Cluster Lesson Learned) สำหรับคลัสเตอร์ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศให้ทราบถึงแนวทางการดำเนินงานและผลลัพธ์ของทุกกลุ่มคลัสเตอรืที่ดำเนินการในปีงบประมาณ 2562 เนื่องจากการพัฒนาการรวมกลุ่มคลัสเตอร์มีลักษณะการดำเนินงานที่หลากหลาย ตามความเหมาะสมของแต่ละกลุ่มและแต่ละพื้นที่ ร่วมกันถอดบทเรียนการดำเนินงานและวิธีการพัฒนาของแต่ละกลุ่ม ตลอดจนปัญหาอุปสรรคที่พบจากการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งจะนำไปเป็นข้อมูลในการพัฒนากลุ่มคลัสเตอรืให้มีประสิทธิ์ภาพมากยิ่งขีึ้นในปีถัดไป

20 สิงหาคม 2562 : นางยุพรัตน์ ศตวิริยะ ผอ. กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม เป็นประธานพร้อมร่วมเสวนา กิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงกลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster) กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต และกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป (TAF) พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลประจำปีงบประมาณ พ.ส. 2562 ณ ห้องสเตชั่น 3 โรงแรม Prime Hotel Central Station (หัวลำโพง) โดยมีสมาชิกคลัสเตอร์ทั้ง 2 กลุ่ม เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน กิจกรรมดังกล่าว เป็นการนำเสนอสรุปผลการดำเนินงานพัฒนาการรวมกลุ่มตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา โดยกลุ่ม TAF ดำเนินการรวมกลุ่มมาเป็นเวลา 4 ปี มีสมาชิก จำนวน 25 รายมุ่งเน้นการทำการตลาดทั้งในรูปแบบออนใลน์ และออฟใลน์ รวมถึงการพัฒนามาตรฐานให้ได้ในระดับสากล ส่วนกลุ่มอาหารอนาคต ดำเนินการมาเป็นปีที่ 2 มีสมาชิก 21 ราย มุ่งเน้นการทำการตลาด การพัฒนามาตรฐานสากล และการพัฒนานวัตกรรมกลุ่ม เพื่อตอบโจทย์การเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ทั้งนี้ในการเสวนาดังกล่าว ผอ.ยุพรัตน์ฯ ได้ถ่ายทอดแนวทางการพัฒนาคลัสเตอร์ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน รวมถึงองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาคลัสเตอร์ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งความรัก ความเสียสละ และความสามัคคี รวมถึงการร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจให้เกิดความเข้มแข็งและยังยืน นอกจากนี้ ประธานกลุ่มทั้ง 2 ท่าน ได้แก่ ดร.จามร สมณะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตและนางกัลยา ดิลกเรืองชัย ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป (TAF) ยังได้ร่วมกันแชร์ประสบการณ์และมุมมองความสำเร็จของแต่ละกลุ่มตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาด้วย

วันที่ 15 สิงหาคม 2562 : นางสาวสุวิมล จินตวัฒน์ นวอ.ชพ. ผู้แทน กข.กสอ. พร้อมด้วยสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นำคณะคลัสเตอร์อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร และกลุ่มอุสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ กว่า 20 ราย เข้าศึกษาดูงาน และเยี่ยมชมผลงานนวัตกรรม ห้อง Lab ทางการแพทย์และอิเล็กทรอนิกส์ และพื้นที่ Co Workinng Space ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาลัยมหิดล อ.ศาลายา จ.นครปฐม โดยมี ผศ.ดร.สุรโชค ธนพิทักษ์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลให้การตอนรับและนำชม ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้สมาชิกทั้ง 2 กลุ่มเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรูู้ การเชื่อมโยงและหาแนวทางความร่วมมือในด้านการพัฒนานวัตกรรม และการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี และบุคลากรในสาขาอุตสาหกรรมทางการแพทย์และอิเล็กทรอนิกส์ ต่อไป

กรุงเทพฯ วันที่ 11 มิถุนายน 2562 : นางยุพรัตน์ ศตวิริยะ ผอ.กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เป็นผู้แทนกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมแถลงข่าวงาน "Bangkok Beauty Show 2019" เพื่อมุ่งผลักดันเครื่องสำอางไทยสู่ตลาดโลก พร้อมตอกยำ้การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมความงามครบวงจรแห่งอาเซียน ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค โดยมีคณะผู้จัดงานและผู้สนับสนุนการจัดงานเข้าร่วมแถลงข่าวเป็นจำนวนมาก กสอ. ได้พัฒนาคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย มาตั้งแต่ปี 2558 ทั้งในด้านการเพิ่มผลิตภาพ การขยายช่องทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ การเชื่อมโยงกับองค์กรภายนอก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และเชื่อมโยงทางการค้า รวมถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดประกวดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทยและการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมและจำหน่ายสินค้า โดยในปีนี้ทั้ง 2 งานได้รับโอกาสเข้าร่วมจัดแสดงในงาน Bangkok Beauty Show 2019 ที่กำหนดจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ระหว่าง วันที่ 11-13 กรกฎาคม 2562 ณ ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา ซึ่งคาดว่าจะเป็นเวทีแสดงศักยภาพของกลุ่มคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทยในเวทีสากลต่อไป

วันที่ 8 พฤษภาคม 2562 กร.กข.กสอ. ร่วมกับที่ปรึกษาฯ สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย นำผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และกลุ่มยานยนต์แห่งอนาคต นำนวัตกรรมที่กลุ่มคลัสเตอร์ร่วมกันสร้างสรรค์ภายใต้โครงการฯ ได้แก่ Auto Stocker และ AGV Controller ออกแสดงในงาน Intermach & Subcon Thailand 2019 ณ ศูนย์การประชุมฯไบเทคบางนา จังหวัดสมุทรปราการ ในการนี้ ผอ.กข.กสอ. (นางยุพรัตน์ ศตวิริยะ) ให้เกียรติเข้าร่วมชมงานพร้อมให้ข้อเสนอแนะแก่คลัสเตอร์ทั้งสองกลุ่มเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์ต่อไป ### กร.กข.รายงาน